วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การปลุกผักสวนครัวแบบเศรษฐกิจพอเพียง

การปลุกผักสวนครัวแบบเศรษฐกิจพอเพียง

ผักเป็นอาหารประจำวันของมนุษย์ เป็นแหล่งอาหารให้แร่ธาตุวิตามินที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อสัตว์จากข้อมูลวิจัยกล่าวว่า มนุษย์เราควรบริโภคผักวันละประมาณ 200 กรัม เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุและวิตามินอย่างเพียงพอ
การปลูกพืชสวนครัวนั้นไม่ยากเลย ถ้ามองไปรอบด้านภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นบ้านในเมืองใหญ่ เมืองหลวง หรือบ้านในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ล้วนละลานตาไปด้วย "บ้านไทย" ซึ่งไม่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเหมือนทุกวันนี้ 


ผักเป็นอาหารประจำวันของมนุษย์ เป็นแหล่งอาหารให้แร่ธาตุวิตามินที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อสัตว์จากข้อมูลวิจัยกล่าวว่า มนุษย์เราควรบริโภคผักวันละประมาณ 200 กรัม เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุและวิตามินอย่างเพียงพอผลการวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักแห่งเอเซีย ชี้ให้เห็นว่าประชากรของประเทศไทย โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์และพวกเด็ก ๆ มักขาดแคลนแร่ธาตุวิตามินกันมาก ประกอบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบทำให้มีค่าครองชีพสูงชึ้น ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้มีการรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีพืชผักเพียงพอแก่การบริโภคในครัวเรือน ทำให้ได้รับสารอาหารครบตามความต้องการของร่างกายและช่วยลดภาวะค่าครองชีพ 


การเลือกสถานที่ปลูก

1. การเลือกสถานที่หรือทำเลปลูก ควรเลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด
อยู่ใกล้แหล่งน้ำและไม่ไกลจากที่พักอาศัยมากนักเพื่อความสะดวกในการ
ปฏิบัติงานด้านการปลูก การดูแลรักษาและสะดวกในการเก็บมาประกอบอาหารได้ทันทีตามความต้องการ
2. การเลือกประเภทผักสำหรับปลูก ชนิดของผักที่จะปลูกควรคำนึงถึงการใช้เนื้อที่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด โดยการปลูกผักมากชนิดที่สุดเพื่อจะได้มีผัก
ไว้บริโภคหลายๆ อย่าง ควรเลือกชนิดของผักที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและปลูกให้ตรงกับฤดูกาล ทั้งนี้ควรพิจารณาเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดพันธุ์
วันเสื่อมอายุ ปริมาณหรือน้ำหนัก โดยดูจากสลากข้างกระป๋องหรือซองที่บรรจุเมล็ดพันธุ์ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าเมล็ดพันธุ์นั้นใหม่หรือเสื่อมความงอกแล้ว เวลา
วันที่ผลิตถึงวันที่จะซื้อ ถ้ายิ่งนานคุณภาพเมล็ดพันธุ์จะลดลง
 
การเก็บเกี่ยวผักควรเก็บในเวลาเช้าจะทำให้ได้ผักสดรสดี และหากยังไม่ได้ใช้ให้ล้างให้สะอาด และนำเก็บไว้ในตู้เย็น สำหรับผักประเภทผลควรเก็บในขณะที่ผลไม่แก่จัดจะได้ผลที่มีรสดีและจะทำให้ผลดก หากปล่อยให้ผลแก่คาต้น ต่อไปจะออกผลน้อยลง สำหรับในผักใบหลายชนิด เช่น หอมแบ่ง ผักบุ้งจีน คะน้า กะหล่ำปี การแบ่งเก็บผักที่สดอ่อนหรือโตได้ขนาดแล้ว โดยยังคงเหลือลำต้นและรากไว้ไม่ถอนออกทั้งต้น รากหรือต้นที่เหลืออยู่จะสามารถงอกงาม ให้ผลได้อีกหลายครั้ง ทั้งนี้จะต้องมีการดูแลรักษาให้น้ำและปุ๋ยอยู่ การปลูกพืชหมุนเวียนสลับชนิดหรือปลูผักหลายชนิดในแปลงเดียวกัน และปลูกผักที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นบ้างยาวบ้างคละกันในแปลงเดียวกัน หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแต่ทยอยปลูกครั้งละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่าพอรับประทานได้ในครอบครัวในแต่ละครั้งที่เก็บเกี่ยว ก็จะทำให้ผู้ปลูกมีผักสดเก็บรับประทานได้ทุกวันตลอดปี
 
ประโยชน์ของพืชผักสวนครัว

1.  ใช้รับประทานเป็นอาหารโดยอาจรับประทานสดๆ เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี  หรือนำไปปรุงเป็นอาหารก่อน ซึ่งผักแต่ละชนิดจะมีสารอาหารที่แตกต่างกันเช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ เป็นต้น        2.  ใช้เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรค เช่น หอม กระเทียม ขิง สะระแหน่ เป็นต้น        3.  ใช้ขายเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว        4. ทำให้ผู้ปลูกมีร่างกายแข็งแรง เพราะต้องพรวนดิน รดน้ำ ใส่ปุ๋ย และดูแลผักอยู่เสมอ ทำให้ได้ออกกำลังกายไปในตัว 
                 5.  ทำเป็นรั้วบ้านได้ คือ ปลูกล้อมกั้นเป็นเขตของบ้าน ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า"ผักสวนครัว รั้วกินได้" เช่น กระถิน ชะอม ตำลึง มะระ เป็นต้น




 

ผ้าไหม..สุรินทร์

ผ้าไหม..สุรินทร์

 จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าไหมมานานและได้สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมานานจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่น่สนใจยิ่ง หากศึกษาอย่างลึกซึ่งแล้ว จะค้นพบเหตุผลหลายประการที่สนับสนุนว่าจังหวัดสุรินทร์มีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองในเรื่องผ้าไหม ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งส่งผลผลิตและการทอไม่ว่าจะเป็นลวดลายขิงผ้าไหม การผลิตเส้นไหมน้อยและกรรมวิธีการทอ

และจังหวัดของเรายังมีการจัดงานข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ เพื่อจัดเป็นนิทรรศการแสดงและสาธิตการท้อผ้าไหม ภูมิปัญญาการทอผ้าไหมที่หลากหลายจากทุกอำเภอ นำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วยค่ะ และยังมีการนำเอาพันธ์ข้าวหอมมะลิ ที่โด่ดเด่นของจังหวัดมาจัดนิทรรศการเพื่อให้ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมได้ศึกษาเรียนรู้กันด้วยน่ะค่ะ 

ลักษณะเด่นของผ้าไหมสุริทร์ 1.มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และลวดลายที่บรรจงประดิษฐ์ล้วนแล้วแต่มีที่มาและมีความหมายอันเป็นมงคล
2.นิยมใช้ไหมน้อยในการทอ ซึ่งไหมน้อยคือไหมที่สาวมาจากเส้นใยภายในรังไหม มีลักษณะนุ่น เรียบ เงางาม
3.นิยมใช้สีธรรมชาติในการทอ ทำให้มีสีไม่ฉูดฉาด มีสีสันที่เป็นลัษณะเฉพาะ คือสีจะออกโทนสีขรึม อีกทั้งมีกลิ่นหอมจากเปลือกไม้
4.ฝืมือการทอ จะทอแน่มีความละเอียดอ่อนในการทอและประณีต รู้จักผสมผสานลวดลายต่างๆเข้าด้วยกันแสดงถึงศิลปที่สวยงามกว่าปกติ
ในงานยังมีการจัดจำหน่ายไหมและผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดสุริทร์ ในฐานะที่ดิฉันก็เป็นคนสุริทร์คนหนึ่งก็อยากเชิญชวนให้มาเที่ยวจังหวัดเรากันเยอะๆน่ะค่ะ

ชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อ..ของใครที่ฝัน

ชีวิตที่แสนจะน่า..เบื่อ อ ของใครที่ฝัน..


ชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อ..ของใครที่ฝัน

     ก่อนอื่นเราควรจะรู้ก่อนว่า ชีวิต คืออะไร ในความเข้าใจของฉันชีวิตมีทั้งความสุข ความเศร้า ความผิดหวังทุกคนล้วนมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เป็นเด็กก็ต้องเรียน มีครอบครัวก็ต้องดูแล บางคนมีชีวิตสั้นยังมีอีกหลายอย่าที่เขายังไม่ทันได้ทำ แต่บางคนถึงจะมีชีวิตอยู่แต่ไม่อาจทำในสิ่งที่อยากทำได้ เพราะมีร่างกายทีไม่ครบสมบูรณ์

ในแต่ล่ะวันที่เราดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน ฉันมักจะได้ยินคำพูดที่ว่า “เมื่อไหร่จะเรียนจบจะได้ทำงาน” แต่ในช่วงปิดเทอมที่ฉันไปทำงานฉันกลับได้ยินคำว่า “อยากกลับไปเรียน อยากเรียนสูงๆ จะได้มีงานทำที่ดี ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้” ทุกคนต่างบอกว่าฉันดีที่มีโอกาสได้เรียน มีพ่อแม่ที่ค่อยส่งให้ได้เรียนสูง ได้ใส่ชุดนักศึกษาสวยๆ ไม่ต้องเหนื่อย วันวันนั่งจับแต่ปากกา ไม่ต้องค่อยตื่นเช้าและทุกคนมันทำท่าทางที่อิจฉาชีวิตของฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไหร่นัก ฉันก้อเป็นคนหนึ่งที่เบื่อชีวิตในการเรียน คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะจบจะได้ทำงาน แต่ถ้ามองถึงชีวิตจริง ถ้าผ่านเวลานี้ไป ฉันก็คงเบื่อชีวิตที่ต้องตื่นเช้า ไม่ได้กิน ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้นั่งสนุกกับเพื่อนๆ เหมือนอย่างทุกวันนี้

ในแต่ละวันหลังเลิกเรียนถ้าไม่มีงานก้อคือนั่งเล่น face หรือไม่ก็เล่นกับเพือนๆซึ่งเป็นกิจวัตประจำวันจนกระทั่งฉันได้เจอรูปภาพหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนในเฟสแชร์ต่อกันมา "ในขณะที่คุณกำลังเบื่อชีวิตของตัวเอง..มีอีกเป็นล้านคนอยากมีชีวิตแบบคุณ"
 















 มันทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันมีค่ามาก ที่ได้เรียน มีพ่อแม่ทีรักและค่อยเป็นหวงฉันตลอด ไม่ว่าฉันจะเคยทำผิด เคยพลาด ท่านก็พร้อมจะให้อภัยฉันเสมอ แต่ยังมีอีกหลายชีวิตที่ไม่มีโอกาสเหมือนฉัน ฉะนั้น ฉันอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของตัวเองรักตัวเองให้มากๆน่ะค่ะ

การอบสมุนไพร..เพื่อสุขภาพ

การอบสมุนไพร..เพื่อสุขภาพ


การอบสมุนไพร.. เป็นการช่วยล้างพิษออกทางเหงื่อ ผิวหนังของคนเราจะเป็นส่วนที่กว้างที่สุด ดังนั้นการขับสารพิษส่วนเกินออกทางเหงื่อจึงได้ผลดีมาก เวลาที่ร่างกายทุกส่วนเกิดความร้อนขึ้นพร้อมกัน มันจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัว เลือดก็จะพรั่งพรูกันขึ้นมาที่ผิวหนังเป็นจำนวนมาก พาเอาสารเคมีส่วนเกิน เช่น โซเดียม โปตัสเซียม หรือสารอื่น ๆ ที่เรารับเข้าไปเกินความต้องการนั้น ถูกหลั่งออกมากับเหงื่อและในเวลาเดียวกันนั้น "การอบสมุนไพร" นอกจากจะล้างพิษออกไปแล้ว เลือดที่มาเลี้ยงที่ผิวหนังมากขึ้น ยังช่วยนำพาสารอาหารที่ดี ๆ มาให้ผิวหนัง ผิวหนังจึงสวยขึ้นด้วย นอกจากนี้หาก "อบสมุนไพร" อย่างถูกวิธี จะทำให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายแข็งแรงสดชื่นและกระปรี่กระเปร่ายิ่งขึ้น ทั้งยังบรรเทาความเมื่อยล้า บำบัดความซึมเศร้าได้ดีอีกด้วย

 การอบสมุนไพร นับเป็นวิธีการที่ทางแพทย์ในปัจจุบัน ยอมรับว่าสามารถช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองบริเวณผิวหนังดีขึ้น ส่วนไอน้ำของสมุนไพรจะมีสรรพคุณตามคุณสมบัติของสมุนไพรนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น

ประโยชน์ของการอบสมุนไพรนั้นมีมากมาย
เราลองหันมาดูแล รักษาสุขภาพกันเถอะค่ะ เสียสระเวลาสักนิดเพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดี และมีผิวพรรณที่สดใส และช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย ดีกว่าเราไปหาใช้ครีมแพงๆแต่มีความเสี่ยง ใช้แล้วอาจจะเเพ้ ทำให้เสียเวลารักษาและเพิ่มค่าใช้จ่ายของเราอีกน่ะค่ะ

การออกกำลังกาย..เพือสุขภาพ

การออกกำลังกาย..เพื่อสุขภาพ


      การออกกำลังหมายถึงกิจกรรมที่ทีกระทำแล้วทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี มีความฟิต การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อ หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง
การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง
หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกาย อาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วยป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย

การอนุรักษ์ป่าไม้

อนุรักษ์ป่าไม้


การรักษ์ทรัพยากรป่าไม้

          ปัจจุบันป่าไม้ถูกทำลายไปจำนวนมาก การทำลายป่าไม้นอกจากจะทำให้ปริมาณไม้ที่จะใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจลดลงโดยตรงแล้ว ยังเป็นผลที่ทำให้เกิดความสูญเสียต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรอย่างมากมายอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าป่าไม้ช่วยทำให้อากาศชุมชื้นเพราะป่าไม้จะช่วยเก็บน้ำไว้ได้ ทำให้เกิดต้นน้ำลำธารและกระแสน้ำไหลไปตามปกติ ช่วยป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ช่วยทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ป่าไม้ยังช่วยทำให้เกิดพืชพันธุ์ไม้อื่นและสัตว์ป่า
          เนื่องจากต้นไม้จะนำคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศไปใช้ในปีหนึ่ง ๆ นับล้าน ๆ ตัน เมื่อป่าไม้ถูกตัดทำลายลงในอัตราที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เชื่อว่า พ.ศ. 2543 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมีปริมาณขึ้นอย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ มีผลให้อุณหภูมิของอากาศเพิ่มขึ้น ทำให้อากาศร้อนและแห้งแล้ง
          ดังนั้นการฟื้นฟูสภาพป่าไม้จึงต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ด้วยความร่วมมือทั้งภาครัฐเอกชน และประชาชน โดยรัฐบาลต้องมีแนวทางในการกำหนดแนวนโยบายด้านการจัดการป่าไม้ ซึ่งเกือบทุกประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรปและสหรัฐอเมริกามีรากฐานอยู่บนความคิดที่สำคัญ 3 ข้อ คือ
1. Sustain yield concept ใจความสำคัญของมโนทัศน์นี้อยู่ที่ว่าอัตราการตัดไม้และอัตราการเจริญเติบโตของไม้ต้องสมดุลกันเพื่อให้มีผลผลิตของไม้ใช้ไปได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด
          2. Multiple use concept วัตถุประสงค์การจัดป่าไม้ควรอยู่ในลักษณะอเนกประสงค์ ป่าไม้ไม่ใช่แหล่งไม้เท่านั้น แต่เป็นแหล่งสัตว์ป่า แหล่งนันทนาการ แหล่งน้ำทั้งยังสามารถรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและอัตราเพิ่มธาตุอาหารในน้ำที่เรียกว่า Eutrophication ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นรากฐานสำคัญของการจัดการป่าไม้ด้วย
          3. Long run policy นโยบายการจัดการป่าไม้ระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการจัดการป่าเพื่อประโยชน์ในระยะสั้นก็ไม่ต่างจากธุรกิจหรือกิจการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่หวังผลกำไรมากในระยะสั้นโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะติดตามมาในระยะยาว ป่าไม้มีอายุยืนยาวเป็นพันปี การจัดการป่าในรูปของสวนป่าโดยปลูกพืชโตเร็วเป็นแถวเป็นระยะ แต่ก็ขาดลักษณะนานาชนิดและความซับซ้อนของป่าเพราะเลือกปลูกพืชเพียงไม่กี่ชนิด การจัดการป่า โดยไม่คำนึงถึงลักษณะป่าเดิมเป็นความเข้าใจผิดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ความคิดเกี่ยวกับการจัดการป่าที่ว่า The greatest good for the greatest number in the long run จึงควรเป็นนโยบายสำคัญของการจัดการป่าไม้
 ประโยชน์ของป่าไม้
 ป่าไม้ได้ให้ประโยชน์แก่มนุษย์ชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมเอนกประการ โดยผลประโยชน์ทางอ้อมนั้น น้อยคนนักจะเห็นความสำคัญบางทีอาจไม่คิด
หรือรู้ซึ้งกัน แต่ความจริงแล้วประโยชน์ทางอ้อมอาจมีมูลค่ามากกว่าประโยชน์
ทางตรงเสียอีก
1. ไม้ใช้ในการสร้างบ้าน ทำรถ ต่อเรือ ทำสะพานทำเครื่องกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น
       2. ไม้ให้เชื้อเพลิง เช่น ใช้ไม้ทำฟืน เผาถ่าน การเดินรถไฟ เรือกลไฟ และใช้ในโรงงานอุตสาหกรรรม
       3. ไม้ให้วัสดุเคมี เช่น เซลลูโลสในการทำกระดาษ ไหมเทียม วัตถุระเบิด น้ำตาล   ลิกนินใช้ทำน้ำหอมและ
เครื่องสำอางต่าง ๆ ยารักษาโรคผิวหนัง ฯลฯ
       4. ได้อาหารจากป่า เช่น ดอก ผล เมล็ด ใบ ของพืชเป็นอาหาร เช่น หน่อไม้ ดอกแค มัน ฯลฯ
       5. ได้ยารักษาโรค เช่น สมุนไพรต่าง ๆ น้ำมันของผลกระเบาแก้โรคเรื้อน ต้นระย่อมรักษาโรคความดันโลหิตสูง เมล็ดของต้นแสลงใช้รักษาโรค
6. ได้ชัน ยาง น้ำมัน เช่น ชันตาแมว และชันกระบากใช้ทำน้ำมันชักเงา ยางรักใช้ทำเครื่องเขิน ยางสนใช้ทำยา น้ำมันไม้ยาง เหียงใช้ในการยาเรือและทาบ้าน ยางไม้ เช่น ยางเยลูตงในการทำหมากฝรั่ง และยางขนุนนกใช้ในการหุ้มสายเคเบิลใต้น้ำ
       7. ได้ฝาดฟอกหนังและสี ได้จากเปลือกไม้ต่าง ๆ เช่น ก่อ โกงกาง โปรง คูณ ได้จากแก่น เช่น ชัน จากผลได้แก่ ไม้ฝาง ชันจากต้นรัง และของต้นคำป่า เป็นต้น
       8. ได้อาหารสัตว์ เช่น นำสัตว์เข้าไปเลี้ยงในป่าเพราะในป่ามีหญ้า ผล และเมล็ดที่สัตว์ชอบกินอยู่มากมายหลายชนิด
   ป่าไม้มีความสำคัญกับชีวิตของญกับเรามาก ทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างๆ ต่างต้องพึ่งพื้นป่าเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ฉะนั้นเราควรหันมาใส่ใจช่วยกันรักษาป่าให้คงอยู่กับเราไปให้เท่านานน่ะค่ะ

     
     

ข้าวหอมมะลิ

ข้าวหอมมะลิ

  ข้าวหอมมะลิ นับเป็นข้าวที่มีชื่อเสียงระดับโลกประเทศไทยผลิตข้าวหอมมะลิและส่งออกมาเป็นเวลาหลายปีมาแล้วโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิส่วนใหญ่ที่ปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นข้าวหอมมะลิ คือ สายพันธุ์ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ และ ๑๕ เท่านั้น
จากคำบอกเล่าถึงแหล่งข่าวได้มาว่ากันว่า ข้าวขาวดอกมะลิ  ๑๐๕  ได้ทำการเพาะปลูกอยู่ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เป็นเวลานานหลายปี แต่เมื่อถูกนำมาปลูกในภาคอีสานใต้  ได้แก่ จังหวัด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร และมหาสารคาม และจังหวัดอื่นๆ อีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน
ต่อมา ภาครัฐจึงให้การสนับสนุนให้ปลูกเป็นแปลงสาธิตขนาดใหญ่  มีการประชาสัมพันธุ์และโน้มน้าว พี่น้องชาวอีสาน  จนกลายเป็นข้าวหอมมะลิที่ขยายผลได้ในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดเรื่อยมา จึงเป็นที่รู้จักและเนที่นิยมเพาะปลูกกันไปทั่วในพื้นที่ภาคอีสาน  [ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ]
ทั้งนี้  จากข้อมูลการสำรวจทางธรณีวิทยา  ในการปลูกเชิงการเกษตรเป็นเวลานาน ทำให้รู้ว่า  ว่า   ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับมรดกจากธรรมชาติมาน้อยมากเพราะพื้นที่นี้เป็นดินทราย  อินทรียวัตถุต่ำ บางแห่งจะมีดินจะมีความเค็มเป็นพิเศษ  สังเกตได้จากร่องรอยเกลือสีขาวที่ปรากฏอยู่ทั่วไป  จึงเป็นพื้นที่เหมาะแก่การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ เป็นอย่างยิ่ง กว่าภาคใดๆ ของประเทศ

ห้วยเสนง

ห้วยเสนง

ห้วยเสนง เป็นอ่างเก็บน้ำของโครงการชลประทาน อยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ไปทางถนนสายสุรินทร์-ปราสาท (ทางหลวงหมายเลข 214) ประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 5-6 แยกซ้ายมือไปทางถนนริมคลองชลประทาน ประมาณ 4 กิโลเมตร ห้วยเสนงนี้เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีสันเขื่อนสูง บนสันเขื่อนเป็นถนนลาดยาง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองสุรินทร์ และภายในที่ทำการชลประทานมีพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงสุดทางเป็น 3 แยก มีพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าไปในหน่วยงานราชการอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ส่วนเลี้ยวขวาเป็นถนนเลียบริมอ่างเก็บน้ำไปได้อีกไกลมาก

ร้านอาหารริมห้วยเสนง   กระท่อมหลังคามุงจากหลังเล็กๆ เรียงกันไปแบบติดๆ กัน เป็นร้านอาหารสำหรับนั่งกินข้าวกลางวันแบบครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนฝูง ในขณะที่หลายคนก็แยกย้ายกันไปลงเล่นน้ำที่อีกด้านหนึ่งของคันคอนกรีต บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่เรียงกันจำนวนมากเป็นที่พักผ่อนที่ดีในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

อ่างเก็บน้ำเวิ้งว้างกว้างใหญ่   อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากจนดูเหมือนทะเลที่กว้างใหญ่มีโรงสูบน้ำประปาตั้งลึกเข้าไปในอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ได้เห็นอยู่กลางน้ำ

จุดชมวิวห้วยเสนง   เป็นซุ้มประตูต้นไม้จัดไว้สวยๆ สำหรับเข้าไปถ่ายรูปริมน้ำ โดยสร้างเป็นระเบียงยื่นเข้าไปเป็นจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง

มินิมาร์ทเพื่อชีวิต   หลังจากที่ได้เดินชมรอบๆ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงแล้วขับรถย้อนกลับออกมา จะเจอร้านมินิมาร์ทร้านหนึ่งที่ตกแต่งร้านได้อย่างคลาสสิคมาก เป็นสไตล์เพื่อชีวิตมีสัญลักษณ์คาราบาวติดหน้าร้าน มองภายนอกเหมือนผับมาก แต่เปิดร้านเป็นมินิมาร์ทสะดวกซื้อแทน ยังไงก็มาเที่ยวกันเยอะๆน่ะค่ะ

รำอันเร..ศิลปในหมู่บ้าน

รำอันเร

     รำอันเร เป็นศิลปประจำหมู่บ้านดิฉันเป็นเวลานาน ซึ่งดิฉันก็ไม่ทราบว่ามีมานานเท่าใด แต่ที่รู้คือมีมาตั้งแต่ที่ฉันจำความได้ มีการแสดงประจำทุกปีคือการแสดงขึ้นเขาสวาย ซึ่งแม่ดิฉันได้พาฉันไปหัดซ้อมรำตั้งแต่ที่ฉันตัวน้อยๆ แต่พอโตขึ้นมาก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสช่วยงานหมู่บ้านสักเท่าไหร่นัก แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ยังสืบทอดประเพณีให้แก่เด็กรุ่นหลังตเรื่อยมา จนถึงทุกวันนี้


เรือมอันเร หรือ ลูดอันเร เป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่งในหมู่ชาวไทยเชื้อสายเขมร ในบริเวณอีสานใต้ มีลักษณะคล้ายการละเล่นลาวกระทบไม้ของไทย
เรือมอันเร แต่เดิมนั้นไม่มีบทเพลงและท่าฟ้อนรำที่เป็นแบบฉบับอย่างในปัจจุบัน ผู้ประดิษฐ์เนื้อร้อง คือ ครูปิ่น ดีสม ครูใหญ่โรงเรียนบ้านโคกตาพรหม ตำบลโด อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ได้นำบทเพลงพื้นบ้านที่เคยร้องมาบรรจุใส่จังหวะต่างๆ ซึ่งมี 5 จังหวะดังนี้

จังหวะไหว้ครู เกริ่นครู (ถวายครู)
จังหวะเจิงมุย (จังหวะขาเดียว)
จังหวะเจิงปรี (จังหวะสองขา)
จังหวะมะลุปโดง (จังหวะร่มมะพร้าว)
จังหวะกัจปกา ซาปดาน (จังหวะเด็ดดอกไม้)
เครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสานใต้ ประกอบด้วย กลองตะโพน ปี่ในหรือปี่อ้อ ซอด้วง ซอตรัวเอ กรับ สาก 1 คู่และไม้หมอน 2 อัน

อุปกรณ์การแสดง

ไม้หมอน 1 คู่ มีขนาดยาว 2-3 ศอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว นิยมใช้ไม้มะค่า หรือ ไม้แดกสาก 1 คู่ ยาวประมาณ 4-6 ศอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว

ดิฉันก็อยากเชิญชวนเพื่อนๆ ให้มาเที่ยวขึ้นเขาสวาย..งานประจำปีของคนสุรินทร์กันเยอะๆน่ะค่ะ. จะได้ดูรำอันเรศิลปประจำหมู่บ้านของดิฉันด้วย 

น้ำตกอลงกรณ์

น้ำตกอลงกรณ์ 

นายวัลลภ เรืองพรเจริญ นายอำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ นำชาวบ้าน ต.เทพรักษา และ ต.ตาตุม อ.สังขะ กว่า 200 คน ทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ก่อนร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์รอบน้ำตก
อลงกรณ์ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยนายวัลลภกล่าวว่า น้ำตกอลงกรณ์เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ อ.สังขะ ต่อมาเกิดสถานการณ์ตามแนวชายแดน สถานที่แห่งนี้จึงถูกลืมมา 30-40 ปี ปัจจุบันทหารเข้ามาปรับปรุงพื้นที่ และเก็บกับระเบิดออกแล้ว จึงเห็นว่าควรพัฒนาให้สวยงามยิ่งขึ้น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเยือนอีกครั้ง ขณะนี้พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวมาชมความอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าไม้และสัตว์ป่า
สำหรับน้ำตกอลงกรณ์ ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ห่างจากบ้านคะนา ต.ตาตุม ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 ก.ม. มีน้ำตกทั้งหมด 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงไม่มากนัก อีกทั้งยังมีพันธุ์ไม้อุดมสมบูรณ์ สามารถเดินเลาะโขดหินริมธาร เพื่อชมน้ำตกแต่ละชั้นได้อย่างร่มรื่น










   น้ำตกอลงกรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งของจังหวัดสุรินทร์..ที่น่าเที่ยวนะค่ะ ก้ออยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวกันเยอะๆน่ะค่ะ